เศรษฐกิจโลก 1000 ปี - AN OVERVIEW

เศรษฐกิจโลก 1000 ปี - An Overview

เศรษฐกิจโลก 1000 ปี - An Overview

Blog Article

สงครามครั้งนี้ ก็แบ่งเป็นพันธมิตรสองฝ่าย คือ ฝ่ายอักษะ เยอรมันนี อิตาลี ญี่ปุ่น และ ฝ่ายสัมพันธมิตร คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และโซเวียต

ความสำเร็จอย่างงดงามของอเมริกา ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ และอวกาศนั้น มีเหตุปัจจัยสำคัญจากทรัพยากรธรรมชาติ คือ น้ำมัน ซึ่งย้อนกลับมาทำร้ายอเมริกาในที่สุด

และลงทุนแมนเป็นหนึ่งในคนที่พิสูจน์แล้วว่า “ข้อมูล” มันมีค่า มีราคา ได้มากมายแค่ไหน

คำถามที่พบบ่อย ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

และในขณะนั้นประเทศจีน เศรษฐกิจโลก 1000 ปี ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลก นำไปสู่การขยายตัวของการลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อที่จะเป็นโรงงานของโลกโดยอาศัยความได้เปรียบในแง่ของต้นทุนและวัตถุดิบและค่าแรงที่ถูกกว่า จึงกลายเป็นผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์หลักของโลกผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งเล็ก ถ่านหิน ยางพารา และน้ำมันดิบราคาพุ่งทะยานและส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วโลก

และเน้นที่ภาพในมุมกว้างและการเชื่อมโยงกันของเหตุการณ์ต่างๆ ส่งผลต่อกันและกันดีจริงๆ

สหรัฐเอง ก็ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จากผลของสงครามโลกครั้งที่สองเช่นกัน

ด้วยอำนาจล้นเหลือ พระสันตะปาปาและบาทหลวงหลายรูปมีความเป็นอยู่รำรวย ใช้ความศรัทธาประชาชนมาหารายได้ สร้างความหรูหราได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เช่น การขายใบไถ่บาป ใช้อำนาจในการเก็บภาษีบำรุงศาสนาจากทุกคนที่อยู่ในคริสจักร

จักรวรรดิรัสเซียถูกเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยการปฏิวัติโดยพรรค บอลเซวิค กลายเป็นสหภาพโซเวียต น้ำมันเริ่มกลายเป็นทรัพยากรที่สำคัญเกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วน ทำให้บริษัทน้ำมันสัญชาติ อเมริกากลายเป็นผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ถ้าถามว่าสิ่งไหนที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปตลอดกาลก็คงหนีไม่พ้นคำว่ากระแสไฟฟ้า

จบเรื่องค่าเงินไป มาต่อเรื่องน้ำมัน

ในขณะนั้นอังกฤษและฝรั่งเศสต่างประสบวิกฤตทางด้านการเงิน จุดเริ่มต้นมาจากสงคราม เมื่อกษัตริย์ของสเปนสวรรคตฝรั่งเศสจึงขยายฐานอำนาจไปยังสเปนที่อ่อนแอ อังกฤษซึ่งกลัวว่าฝรั่งเศสจะร่วมกับสเปนจึงประกาศสงครามกับฝรั่งเศส และจากการที่รัฐบาลอังกฤษกู้เงินมากมายเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม ผลลัพธ์ก็คือรัฐบาลอังกฤษมีหนี้สินเป็นจำนวนมหาศาล

สกุลเงินประเทศนั้น ต้องเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

แต่ในความจริงแล้ว บางประเทศล้วนมีระดับเศรษฐกิจที่แตกต่างกันเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมนีอีกหลายๆประเทศที่ไม่มีปัญหาเศรษฐกิจกลับได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วยจึงกลายเป็นว่าไม่กระตุ้นฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ของประเทศอื่นๆโดยเฉพาะ ไอซ์แลนด์ สเปน อิตาลี และกรีซ

อย่างไรก็ตาม ชาวอาณานิคมกลับถูกกฏหมายภาษีขูดรีดมากขึ้นเรื่อยๆ จนความอดกลั้นเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด

Report this page